บันทึกอนุทินครั้งที่ 1
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวม
วันอังคารที่ 13 เดือนมกราคม พ.ศ.2558
ครั้งที่ 1 กลุ่ม 103 ห้องเรียน 443
เวลาเรียน 14.10-16.40 น.
สัปดาห์นี้อาจารย์ได้อธิบายเรื่องงบในการซื้ออุปกรณ์ของห้องว่าจะซื้ออะไรบ้าง
และเล่าประสบการณ์การเดินทางพาพี่ปี4ไปออกค่ายจิตอาสาที่บุรีรัมย์อาจารย์มาเล่าว่า
เจออะไร บ้างและรุ่นพี่ได้ทำจิตอาสาอะไรบ้าง เช่่นการทาสีภายในชั้นเรียนและภายนอก
การจัดสภาพห้องเรียนและการจัดกิจกรรมพี่สู่น้อง แจกของที่ขาดแคลนอาจารย์ได้บอกว่า
ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและหวาดเสียว และอาจารย์ได้เฉลยข้อสอบของเทอมที่
แล้วและทบทวนความรู้เดิมว่านักศึกษายังสามารถจำได้แค่ไหนเพื่อที่อาจารย์จะได้สอนเพิ่ม
เติ่มและควรใส่เนื้อหาอะไรไปบ้าง
การจัดสภาพห้องเรียนและการจัดกิจกรรมพี่สู่น้อง แจกของที่ขาดแคลนอาจารย์ได้บอกว่า
ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและหวาดเสียว และอาจารย์ได้เฉลยข้อสอบของเทอมที่
แล้วและทบทวนความรู้เดิมว่านักศึกษายังสามารถจำได้แค่ไหนเพื่อที่อาจารย์จะได้สอนเพิ่ม
เติ่มและควรใส่เนื้อหาอะไรไปบ้าง
การศึกษาแบบเรียนรวม
การศึกษาแบบเรียนรวม หมายถึง การรับเด็กเข้ารับการศึกษาโดยไม่แบ่งแยกความบกพร่องของเด็ก หรือคัดแยกเด็กที่ด้อยว่าเด็กส่วนใหญ่ออกจากชั้นเรียน แต่จะใช้การบริหารจัดการและวิธีการในการให้เด็กเกิดการเรียนรู้และพัฒนาการตามความต้องการ จำเป็นอย่างเหมาะสมเป็นรายบุคคล
ลักษณะของการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม
ความแตกต่างจากรูปแบบการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษและเด็กปกติคือ จะต้องถือหลักการดังนี้
• เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน
• เด็กทุกคนเข้าเรียนในโรงเรียนพร้อมกัน
• โรงเรียนจะต้องปรับสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ทุกด้านเพื่อให้สามารถสอนเด็กได้ทุกคน
• โรงเรียนจะต้องให้บริการ สื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือต่าง ๆ ทางการศึกษาให้แก่เด็กที่มีความต้องการจำเป็นนอกเหนือจากเด็กปกติทุกคน
• โรงเรียนสามารถจัดการศึกษาได้หลายรูปแบบในโรงเรียนปกติทั่วไปโดยจัดให้มีสภาพแวดล้อมที่มีขีดจำกัดน้อยที่สุด
• เด็กทุกคนเข้าเรียนในโรงเรียนพร้อมกัน
• โรงเรียนจะต้องปรับสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ทุกด้านเพื่อให้สามารถสอนเด็กได้ทุกคน
• โรงเรียนจะต้องให้บริการ สื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือต่าง ๆ ทางการศึกษาให้แก่เด็กที่มีความต้องการจำเป็นนอกเหนือจากเด็กปกติทุกคน
• โรงเรียนสามารถจัดการศึกษาได้หลายรูปแบบในโรงเรียนปกติทั่วไปโดยจัดให้มีสภาพแวดล้อมที่มีขีดจำกัดน้อยที่สุด
ศึกษาแบบเรียนรวมมีรูปแบบใด
การจัดการศึกษาแบบเรียนรวม เป็นการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษที่มีขีดจำกัดน้อยที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับการจัดการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ การศึกษาแบบเรียนรวมจะมีบรรยากาศที่เป็นจริงตามสภาพของสังคมในปัจจุบัน ซึ่งทุกคนในโรงเรียนจะมีความตระหนักเกี่ยวกับสิทธิความเสมอภาคในด้านการศึกษา มีความแตกต่างกันตามศักยภาพในการเรียนรู้ มีความร่วมมือช่วยเหลือกันและกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการเรียนรู้ ฝึกทักษะความสามารถในการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเป็นสุข มีความยืดหยุ่นและปฏิบัติตนตามสภาพจริงได้อย่างเหมาะสม
ศึกษาแบบเรียนรวมมีหลักการใด
การศึกษาแบบเรียนรวม มีหลักการว่า เด็กเลือกโรงเรียนไม่ใช่โรงเรียนเลือกเด็ก เด็กทุกคนมีสิทธิที่จะเรียนรวมกันโดยโรงเรียนและครูจะต้องปรับสภาพแวดล้อม หลักสูตรวัตถุประสงค์ เทคนิคการสอน สื่ออุปกรณ์ การประเมินผลเพื่อให้ครูและโรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนเพื่อสนองความต้องการของเด็กทุกคนเป็นรายบุคคลได้
แนวคิดและปรัญญาของการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม
การจัดการศึกษาแบบเรียนรวม จะต้องร่วมมือกันระหว่างองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน รวมทั้งผู้ปกครองและชุมชน โดยปลูกฝังด้านจิตสำนึกและเจตคติเกี่ยวกับการจัดการศึกษาให้แก่เด็กทุกคนโดยคำนึงถึงศักยภาพความแตกต่างระหว่างบุคคล หรือความบกพร่องเฉพาะบุคคล ซึ่งจะให้สิทธิเท่าเทียมกันทุกคน โดยไม่เลือกปฏิบัติต่อบุคคลใดเป็นพิเศษเฉพาะ
หลักการการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม
ลักษณะความแตกต่างกันระหว่างบุคคลมีผลต่อระดับความสำเร็จในการเรียนรู้ ทั้งนี้เพราะการเรียนรู้เป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปจากเดิมเพื่อไปสู่พฤติกรรมใหม่ที่ค่อนข้างถาวร อันเป็นผลมาจากประสบการณ์ หรือการฝึกฝน ซึ่งการเรียนรู้ของคนเราอาศัยประสาทสัมผัส ได้แก่ หู ตา จมูกลิ้น กาย ใจ เป็นองค์ประกอบหลักของการเรียนรู้และการรับรู้ หากมีส่วนใดส่วนหนึ่งสูญเสีย หรือบกพร่องไปย่อมมีผลต่อการเรียนรู้ และการรับรู้ตามไปด้วย ทำให้การเรียนรู้ของเด็กต้องล้มเหลว เรียนไม่ได้ดีเท่าที่ควรหรือเกิดข้อขัดข้องเสียก่อน ซึ่งอาจจัดเป็นองค์ประกอบใหญ่ ๆ ได้ 3 ประการ
1. องค์ประกอบด้านสรีรวิทยา ได้แก่ สาเหตุที่สืบเนื่องมาจากการทำงานผิดปกติของระบบการทำงานของร่างกาย เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทางร่างกายของเด็กเอง
2. องค์ประกอบด้านจิตวิทยา ได้แก่ สติปัญญา อัตราเร็วของการเรียนรู้ ความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับตนเอง การปรับตัวทางอารมณ์และสังคม ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวและเพื่อน
3. องค์ประกอบด้านสภาพแวดล้อม ตลอดจนประสบการณ์ต่าง ๆ เด็กที่มีความต้องการพิเศษย่อมได้รับผลกระทบต่อการเรียนรู้ในด้าน ต่าง ๆ และหากเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านต่าง ๆ ซ้อนจะมีผลกระทบต่อการเรียนรู้มากขึ้นไปอีก ซึ่งแยกพิจารณาถึงผลกระทบของความบกพร่องที่มีต่อการเรียนรู้ของเด็กที่มีความต้องการแต่ละประเภท
เพลงสำหรับเด็กปฐมวัย
ผู้แต่ง อ.ศรีนวล รัตนสุวรรณ
เรียบเรียงโดย อ.ตฤน แจ่มถิน
เพลงนม
นมเป็นอาหารดี มีคุณค่าต่อร่างกาย
ดื่มแล้วชื่นใจ ร่างกายแข็งแรง
ยังมีนมถั่วเหลือง ดื่มได้ดีและไม่แพง
ดื่มแล้วชื่นใจ ร่างกายแข็งแรงนมเป็นอาหารดี มีคุณค่าต่อร่างกาย
ดื่มแล้วชื่นใจ ร่างกายแข็งแรง
ยังมีนมถั่วเหลือง ดื่มได้ดีและไม่แพง
เพลงแปรงฟัน
ตื่นเช้าเราแปรงฟัน กินอาหารแล้วเราแปรงฟัน
ตื่นเช้าเราแปรงฟัน กินอาหารแล้วเราแปรงฟัน
ก่อนนอนเราแปรงฟัน ฟันสะอาดขาวเป็นเงางาม
แปรงฟันที่ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง
แปรงฟันที่ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง
เพลงพี่น้องกัน
บ้านของฉันนั้นอยู่ด้วยกันมากหลาย
พ่อ แม่ ปู่ ย่า ลุง ป้า ตา ยาย
มีทั้งน้า อา พี่และน้องมากมาย
ทุกคนสุขสบาย เราเป็นพี่น้องกัน
เพลงมาโรงเรียน
เรามาโรงเรียน เราเขียนเราอ่าน
ครูเล่านิทานสนุกถูกใจ
เราเรียนเราเล่น เป็นเป็นสุขใจ
ร่าเริงแจ่มใสเมื่อมาโรงเรียน
เรามาโรงเรียน เราเขียนเราอ่าน
ครูเล่านิทานสนุกถูกใจ
เราเรียนเราเล่น เป็นเป็นสุขใจ
ร่าเริงแจ่มใสเมื่อมาโรงเรียน
อาบน้ำซู่ซ่า ล้างหน้าล้างตา
ฟอกสบู่ถูตัว ชำระเหงื่อไคล
ราดน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วเช็ดตัว
อย่าให้ขุ่นมัว สุขกายสบายใจ
ประเมินตนเอง
เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกต้องเรียบร้อย ตั้งใจฟังเฉลยข้อสอบและร้องเพลงในท้ายชั่วโมงเทอมนี้ดีใจที่ได้เรียนกับอาจารย์และอยากเรียนกับอาจารย์ทุกเทอมเรียนแล้วสบายใจไม่เครียดไม่กดดันเทอมนี้จะตั้งใจเรียนและขยันให้มากกว่าเทอมที่แล้วค่ะ
ประเมินเพื่อน
เพื่อนแต่งกายถูกต้องเรียบร้อย เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจร้องเพลงกันทุกคนและตั้งใจเฉลยข้อสอบเพื่อนสนุกและเป็นกันเองคงเป็นเพราะสนิทกันตั้งแต่เทอมที่แล้วเพื่อนส่วนใหญ่ตั้งใจเรียนกันมากขึ้นและขยันกันมากถึงแม้จะคุยกันเยอะก็ตาม
ประเมินอาจารย์
อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา มีการเตรียมการเรียนการสอนมาดี และมีการสอนร้องเพลงเพิ่มเติ่มอาจารย์ยังน่ารักและใจดีเหมือนทุกเทอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น